190519 ซูฮยอนร่วมงาน Green Plugged Seoul Festival นอกจากสเตจของตัวเองแล้วยังร่วมในสเตจของ Jannabi ถึง 2เพลง | Playlist Cam
“ตอนนอนไม่หลับอาจจะเป็นเพราะรู้สึกไม่พอใจกับวันนี้หรือสัปดาห์นี้ของตัวเอง หรือทำนองว่าในหนึ่งปีตั้งใจทำเต็มที่ในทุกวันแต่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ แต่คิดว่าถึงวันไหนไม่สมบูรณ์แบบก็บอกตัวเองว่าวันนี้ทำได้ดี หรือเก่งมากแล้วเราได้" "ถึงโลกจะทำร้ายให้คุณเจ็บปวดแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถลดคุณค่า ความสวยงามหรือตัวตนของคุณได้นะคะ คนที่จะทำงั้นได้คือตัวเราเองต่างหากค่ะ หวังว่าทุกคนจะรู้ว่าตัวเองสวยงามและมีค่ามากนะคะ" ㅡ อีซูฮยอน, 2019
190802 ซูฮยอนไลฟ์ยูทูปครั้งแรกแล้วแจ้งว่าหลังจากนี้จะเปลี่ยนชื่อช่องยูทูปจาก Mochi Peach เป็นชื่อจริงของตัวเองคือ Leesuhyun ไปเลย เพราะทำช่องมาสองปียังมีคนเข้าใจว่าเป็นคนละคนกับอัคมิวซูฮยอน อีกทั้งเพื่อที่จะได้ค้นหาได้ง่ายขึ้นด้วย
190911 หลังจากปล่อยทีเซอร์อัลบั้มเต็มที่ 3 'Sailing' ชานฮยอกได้ประกาศผ่านอินสตาแกรมว่าตัวเองจะปล่อยผลงานเขียนเล่มแรก เป็นนิยายที่มีชื่อว่า Fish meets water ชื่อเดียวกับแทรคสองในอัลบั้ม ชานฮยอกเล่าในรายการวิทยุว่าด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยชอบการอธิบายอะไรเยอะๆ จึงลองถ่ายทอดอัลบั้ม Sailing เป็นเรื่องราวแบบนี้ดู เป็นงานเขียนที่เรื่องราวมีความเชื่อมโยงใกล้เคียงกับอัลบั้มนี้ เป็นเรื่องราวของตัวละครชื่อ เฮยา หญิงสาวที่รักทะเล และชายหนุ่มชื่อ ซอน ผู้กำลังค้นหาคุณค่าที่แท้จริงของศิลปะ ภายหลังจากวางขาย Fish meets water ติดชาร์ตขายดีอันดับ1ในหมวดนวนิยายตามร้านหนังสือหลายแห่ง [แปล] "บทสัมภาษณ์จากนิตยสาร Nylon"
▶ รายละเอียด เบื้องหลัง หรือความหมายของแต่ละเพลงในอัลบั้ม Sailing (รวบรวมจากสัมภาษณ์ รายการวิทยุ คำบอกเล่าของอัคมิว ฯลฯ) 01. Chantey 'ฉันถูกมัดข้อมือไว้ แต่รู้วิธีที่จะเป็นอิสระ' เป็นเพลงเศร้าที่ชานฮยอกจินตนาการถึงคนที่ถูกมัดมือไว้ ที่ใครๆมองก็รู้ว่าไม่ได้มีอิสระ แต่ยังยืนกรานว่าตัวเองเป็นอิสระอยู่ 02. Fish in The Water เป็นเพลงที่มีความคันทรี่จากเสียงกีตาร์และบรรยากาศสว่าง อารมณ์คึกคัก ที่มีเนื้อเพลงขัดกับความสดใสนั้นอยู่ เพราะเป็นเพลงที่แฝงเกี่ยวกับความตาย เนื้อหาคือเพื่อนสองคนออกทะเลไป คนนึงหลงรักในทะเลมากๆโดดลงไปแล้วก็ตาย เพื่อนอีกคนที่มองอยู่เป็นคนร้องเพลงนี้ แต่ไม่ใช่มุมมองที่เศร้า ในรายการวิทยุชานฮยอกพูดว่าเพลงนี้เป็นผู้กำกับ แรงผลักดัน ตัวคุมธีมของอัลบั้มนี้ เป็นเพลงที่สำคัญและเหมือนสโลแกนของอัคมิวที่ว่า Live like the way we sing (มาใช้ชีวิตอย่างที่ร้องเพลงกันเถอะ) 03. How Can I love the Heartbreak, You're the one I love 'จนถึงเวลาที่ความรักที่ลึกเหมือนทะเลของเราแห้งเหือด รอวันจากกัน' เพลงนี้หลายคนเคยฟังที่งานเทศกาล Someday Festival ปี2017 เพราะเป็นเพลงที่เอาขึ้นแสดงในงานสุดท้ายก่อนชานฮยอกจะเข้ากรม คิดไว้ตั้งแต่สองปีที่แล้วว่าจะเอาเป็นไตเติล อีกทั้งเป็นเพลงที่เป็นราก ทำให้อัลบั้มนี้เกิดขึ้นมา แถมยังได้ปล่อยในฤดูใบไม้ร่วงที่เข้ากับอากาศพอดี ▶ Live 190929 | 191006 04. Moon เป็นเพลงที่ชานฮยอกฟังบ่อยที่สุด ฟังมาปีครึ่งแล้วยังไม่เบื่อ ชานฮยอกเล่าในไลฟ์อินสตาแกรมว่าที่มาคือวันนั้นขึ้นไปดูพระจันทร์บนดาดฟ้าแล้วมีปรากฏการณ์ Red Moon เลยคิดเนื้อเพลงกับเมโลดี้ออก ผลคือวิ่งลงมาแล้วร้องไปตามหากีตาร์ไปเพราะกลัวลืม ตอนทำเพลงนี้ชานฮยอกได้ฟัง Let's go see the stars ของคุณจอกแจแล้วคิดว่าบรรยากาศเข้ากับเพลงนี้เป๊ะ เลยติดต่อไป 05. Freedom ต้องการตีความคำว่าอิสระ ว่าเตรียมอยากออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยสองมือของตัวเอง อยากทำอะไรโดยอิสระอย่างไม่ต้องสนหรืออายใคร จะหายใจก็อิสระ จะฝันก็อิสระ จะชอบฉันหรือว่าเป็นแอนตี้ก็อิสระเช่นกัน 06. Should've love you more เป็นเพลงที่ร็อคที่สุดในบรรดาเพลงของอัคมิว แรงบันดาลใจจากที่ชานฮยอกฟังอัลบั้มเพลงร็อคเยอะๆเลยอยากทำเพลงสนุกๆที่เนื้อร้องตามได้ง่าย ถ้าร้องด้วยกันกับคนดูคงสนุกดี เป็นเพลงที่ใช้โทรโข่งขึ้นแสดงในท่อนแรกของชานฮยอกด้วย เพลงมีเนื้อหาเนิร์ดๆที่เอาแต่ร้องว่าจะรักให้มากขึ้นซ้ำๆ เป็นเพลงที่เกี่ยวกับความรู้สึกเสียดายแต่ก็ทั้งมีความสุขและแข็งแรง 07. Whale ได้คุณจอกแจมาเรียบเรียงเพลงให้ 'เจ้าวาฬ ถ้าเธอมีทะเลของตัวเองคงจะดี' ต้องการจะสื่อว่าอย่าไปทำลายเอกลักษณ์หรือความไม่เหมือนใครของคนๆนั้น คุณจอกแจเล่าว่าชานฮยอกมีธีมในหัวชัดเจน การเรียบเรียงเพลงก็เลยเสร็จภายในสองวัน | Live 08. Endless Dream, Goodnight เป็นเพลงที่ชานฮยอกแต่งตอนเมาเรือในกรม กำลังลำบากจากอาการเวียนหัวบนเรือ แต่กลับกลายออกมาเป็นเพลงน่ารักๆ ตอนอัดซูฮยอนไม่รู้เช่นกัน ตามจริงเพลงนี้เกือบจะไม่ได้ใส่เข้ามาในอัลบั้ม เป็นเพลงที่มาเพิ่มเข้ามาหลังจากวางไว้ 8 เพลง 09. Farewell ค่อยๆบอกลากับสิ่งที่จากมาโดยไม่พูดตรงๆว่าเศร้า เพลงแรกที่ซูฮยอนเรียบเรียงเอง ทีแรกชานฮยอกแต่งเนื้อเพลงไว้ ซูฮยอนชอบเพลงจึงพยายามเดินหน้าทำต่อ ถึงพี่จะไม่ได้คิดจะใส่ในอัลบั้มตั้งแต่แรก ซูฮยอนยืนยันว่าอยากให้ใส่เป็นเพลงแรกหรือสุดท้าย เลยเอามาทำเอง ลองใส่ไลน์เบส กีตาร์ไฟฟ้า ฮาร์โมนิก้า ไลน์ประสาน ลองใส่เองไปเรื่อยในห้องทำงาน สุดท้ายส่งให้พี่ฟังแล้วได้รับคำชม ก็เลยได้เรียบเรียงเองเป็นเพลงสมบูรณ์ในที่สุด โดยกีตาร์โปร่งในเพลงนี้โดยคุณจอกแจ และฮาร์โมนิก้าโดยคุณฮาริม | เวอร์ชั่นเดโม 10. Let's take time เคยขึ้นแสดงในฐานะเพลงที่ยังไม่ได้ปล่อยใน Someday Festival 2019 เดิมทีไม่ได้จะใส่เข้ามาแต่เพิ่มมาเป็นเพลงสุดท้าย ท่อนคอรัสเสียงประสานตอนสุดท้ายก่อนจบเพลงไม่ใช่เสียงซูฮยอน แต่เป็นเสียงพี่ๆ A&R ที่นั่งอยู่ในห้องอัด เพราะซูฮยอนคิดว่าอัดเสร็จหมดแล้วเลยกลับบ้านไปก่อน แต่ชานฮยอกเพิ่งนึกได้ว่าจะทำ fade out เลยให้พี่ๆ A&R เข้าไปร้องดู ถ่ายทอดสถานการณ์ช่วงระหองระแหงของคู่รัก ที่ท้ายที่สุดตกลงกันว่าลองให้เวลากับตัวเองดูสักพักเถอะ เป็นความรู้สึกของคนสองคนที่ต่างกันมากๆ คนนึงพูดอย่างใจร้อน คนนึงพูดอย่างใจเย็น [แปล] 190925 'AKMU' เติบโตอีกหนึ่งขั้น สัมภาษณ์จากงานแถลงข่าวอัลบั้ม Sailing ▶ https://entertain.v.daum.net/v/20190925152532098
190928 Yooheeyeol's Sketchbook Ep.461 ▶ Dinosaur | Marine Victory โดยชานฮยอก | Farewell โดยซูฮยอน | HowCanIlovetheHeartbreak
AKMU 항해일지 (Sailing Log) ▶ Trailer | Ep.1 | Ep.2 | Ep.3 เบื้องหลังการทำอัลบั้มและความรู้สึกต่างๆระหว่างนั้นของชานฮยอกและซูฮยอน ชานฮยอกเองก็มีมุมมองและแนวการทำเพลงที่เปลี่ยนไป ทั้งโตขึ้น เริ่มพูดถึงท๊อปปิคที่ซีเรียสมากขึ้นแต่ก็ชัดเจนมากขึ้น ส่วนซูฮยอนเริ่มหาแนวทางของตัวเองเจอได้เล่าว่าครั้งนี้เป็นการพบกันระหว่างเพลงของพี่กับเสียงของน้อง เป็นการตีความทั้งของตัวเองและพี่ผสมกัน “เราเคยมีเพลงที่หม่นๆอย่าง Melted กับ Artificial grass ฟังแล้วไม่ได้เศร้า แต่น้ำตาไหล ได้รับฟีดแบคแบบนั้นมาเยอะเหมือนกัน อ่า มีจุดแข็งแบบนั้นในเพลงของเราด้วย คิดว่าถึงจะเป็นเพลงหม่นๆ แต่เรารู้วิธีที่จะไม่ถ่ายทอดให้เศร้า แล้วเปลี่ยนให้สว่างขึ้นได้ อยากทำให้สวยงามแบบนั้นครับ ยังไงก็ตามใน Fish in the water ใจความก็อยู่ที่ ‘เราจะใช้ชีวิตอย่างที่พูด อย่างที่ร้องเพลง’ แต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นภาพรวมของอัลบั้มด้วยครับ คำว่าเพลงในประโยคนั้นก็คือ How can I love the Heartbreak, 뱃노래, Freedom ทั้งหมดผ่าน Fish in the water ว่าจะใช้ชีวิตแบบนั้น ทำแบบนี้” ㅡ ชานฮยอก 2019 Sailing Log /Ep.2 191002 사랑하기 좋은날 with AKMU - อัคมิวชอบท้าทายแนวเพลงใหม่ๆ คนฟังจะได้แปลกใจ แต่คราวนี้รู้สึกภูมิใจที่ทั้งได้ทำในสิ่งที่อยาก แล้วคนฟังก็ชอบด้วย - ชานฮยอกบอกว่า Sailing เป็นอัลบั้มที่รวบรวมชีวิตประจำวันไว้ ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ออกจากกรมไม่นานเลยปล่อยได้ทันที - ซูฮยอนพูดว่าอัลบั้มนี้ต้องลงลึกเรื่องอารมณ์มาก มีเพลงที่ต้องใส่พลังทั้งหมดในการร้อง เลยร้องสดค่อนข้างยาก อีกอย่างคือเมื่อก่อนปกติตัวเองจะต้องทานข้าวก่อนถึงจะร้องเพลงได้ นี่เป็นครั้งแรกที่กินก่อนไม่ลงเพราะอ่อนไหวมาก เสร็จแล้วถึงไปกิน - เพลงที่สร้างแรงจูงใจให้ AKMU ได้แก่ (1) Bee gees - How deep is your love ชานฮยอกฟังตอนไปเท่ียวอังกฤษกับคุณพ่อ คิดว่าต้องมีเหตุผลที่ทำให้ทุกวันนี้คนยังชอบฟังกัน ช่วงนี้ฟังเพลงเก่าเยอะ และกำลังศึกษาว่าทำเพลงยังไงให้ฟังได้ไม่เบื่อ เวลาผ่านไปแล้วยังติดอยู่ในใจได้ (2) เพลงบรรเลงคลาสสิค ชานฮยอกรู้สึกว่าเพลงคลาสสิคกับเสียงธรรมชาติเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกัน คิดว่ามันมีพลังในการเข้าถึงใจคนโดยไม่มีเสียงร้องเลยกำลังศึกษา (3) Oasis - Roll With It ในอัลบั้ม Sailing มีเพลง Should've love you more ที่เกิดขึ้นมาเพราะหลังๆนี้ชานฮยอกชอบฟังเพลงร๊อค เพลงนี้เองก็เป็นหนึ่งในที่ฟัง ชานฮยอกเพิ่งมาชอบเพลงร๊อคได้ไม่นาน เป็นเพลงที่ล่าสุดฟังอย่างสนุกอยู่เรื่อยๆ (4) Lee Sora - 나를 사랑하지않은 그대에게 คุณโซราเป็นศิลปินที่ซูฮยอนยกย่องเป็นครูเรื่องการร้อง ฟังเพลงของรุ่นพี่แล้วได้กลับมาคิดทบทวนอีกทีว่าควรจะร้องเพลงยังไง (5) Jewelry - One more time ซูฮยอนลองคิดย้อนไปตอนเด็กมากๆถึงเพลงแรกที่ได้ฟัง ได้คำตอบว่านี่เป็นเพลงแรกสุดที่จำได้ อีกเพลงที่จำได้ก็คือ Wonder Girls - Tell me (6) Micheal Buble - Quando Quando เป็นเพลงที่ร้องเล่นกับพี่ๆแฟมิลี่แบนด์ใน Begin Again ไม่ได้อยู่ในเซตลิสบัสกิ้ง แต่พอคิดดูแล้ว เหมือนฉากนึงในหนังเลย เป็นช่วงเวลาที่อยากกลับไป เพลงนี้เลยกลายเป็นเพลงที่สำคัญสำหรับซูฮยอน♡ 191008 MBC 2pm date with AKMU - ชานฮยอกเล่าว่าเมื่อก่อนแต่งเพลงเร็วมาก แต่หลังๆนี้เริ่มใช้เวลานานขึ้น ส่วนตัวชอบรีบทำให้เสร็จ เคยทำเสร็จภายใน30นาทีด้วย แต่พอแต่งเพลงเยอะขึ้นเรื่อยๆ ชานฮยอกตั้งใจจะเลี่ยงแพทเทิร์นเดิมๆที่เคยใช้ในเพลง เลยใช้เวลานานกว่าเมื่อก่อน - ซูฮยอนเป็นคนคิดคำย่อชื่อเพลงไตเติล เป็นออซานอลซา (พยางค์แรกของแต่ละวรรคในชื่อเกาหลี) แต่พี่ไม่ค่อยชอบให้ย่อ เพราะว่าเป็นชื่อที่ตัดคำไหนออกไม่ได้เลย ทุกวันนี้ก็เลยพูดชื่อเต็มอยู่ - เวลาแยกกันทำงาน หรืออยู่กันคนละที่ ทั้งสองคนไม่ค่อยส่งข้อความหากันเท่าไหร่ แต่จะส่งบ่อยเวลาอยู่บ้านแล้วต้องการเรียก เพราะว่าห้องทั้งสองคนอยู่ห่างกันตะโกนเลยไม่ค่อยได้ยิน
191226 ซยอนดีแจ้งข่าวให้ผู้ฟัง Volume Up ฟังว่าจะหยุดการทำหน้าที่ดีเจในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า เนื่องจากยุ่งกับการทัวร์คอนเสิร์ตและงานเพลงอีกหลายๆอย่าง ถึงแม้ว่าจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อจะทำงานร้องเพลงไปด้วยและจัดรายการวิทยุต่อไปเรื่อยๆก็ตาม
|
AuthorAKMU_TH. Archives
May 2022
Categories
All
|